ในทุกต้นวันของสัปดาห์ สถาบันภาษา มจร ได้จัดกิจกรรมสวดมนต์ ภาวนาร่วมกัน ซึ่งนำโดย พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส รศ.ดร. ผู้อำนวยการสถาบันภาษา

เมื่อเราได้ระลึกนึกถึงคุณอันประเสริฐแล้ว ก็ให้น้อมนำเอามาปฏิบัติตาม
การฝึกกรรมฐาน อันเป็นที่ตั้งแห่งจิต ก็คือการทำงาน แต่เป็นการทำงานรับใช้ตนเอง
ฉะนั้นเช้านี้ เราได้มาทำงานรับใช้ตนเองแล้วก็ไปทำงานรับใช้ผู้อื่น
การจะทำงานรับใช้ผู้อื่นนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ท่านต้องอาศัย ขันติธรรม
คือความอดทน อดกลั้น เป็นธรรมเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง

ประการหนึ่ง การจะทำงานรับใช้ผู้อื่น ต้องเจออารมณ์มากมายจากผู้อื่น
เข้ามาประทะ ท่านทั้งหลาย จังใช้ขันติธรรมต่อกิเลสที่เขามายั่วยุทำให้
เกิดโทสะ อันจะทางให้ขาดสติ เมื่อสติหาย ความเสื่อมก็มาเยือน
ประการที่สอง อดทนอดกลั่นต่อการงานที่ทำอยู่ หมายถึงให้มีจิตจดจ่อใน
สิ่งที่ทำ อย่าคลายออกจากมัน จงพิสูจน์ตนจนกว่าจะสำเร็จ แต่ก่อนที่ท่าน
จะสำเร็จนั้น ต้องเจอบททดสอบชื่อว่า “อุปสรรค”

อุป แปลว่า เข้าใกล้
สรรค แปลว่า สวรรค์
อุปสรรค จึงแปลว่า เข้าใกล้สวรรค์
เมื่อมีอุปสรรค จึงคือผู้อยู่ใกล้สวรรค์
เมื่อเจออุปสรรคนั้นแสดงว่าเราเข้าใกล้ความเสร็จแล้ว
ยิ่งเจออุปสรรคก็ต้องใช้ความอดทน ต่อสิ่งเหล่าเพื่อให้การงานนั้นสำเร็จ
ไปได้ด้วยดี

ฉะนั้นแล้ว วันนี้เรามาสวดมนต์ร่วมกัน ทั้งสันติและสถาบันภาษา มจร
คือการมาระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ให้พระพุทธพระธรรม รักษาใจ
ให้พระสงฆ์เป็นแบบอย่างที่ดี ในการดำเนินชีวิต และได้มาสร้างสะพานบุญ
ให้มนต์คุ้มครองท่านทั้งหลายให้อยู่เย็นเป็นสุขท่านสวดมนต์ให้ผู้อื่น ผู้อื่นสาธุแล้ว
ก็อวยพรให้ท่าน ผมบอกท่าน ท่านบอกผม จึงเป็นการสร้างสะพานบุญซึ่งกันและกัน
เป็นการสร้างกรรมร่วมกัน เมื่อแผ่เมตตาก็จงแผ่ให้ตนเองก่อนและแผ่ส่วนบุญนี้ให้แก่
พ่อแม่ครูบาอาจารย์ เหล่าเทวดาอารักษ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ตลอดจนเหล่าสรรพสัตว์ฃและภูตผีปีศาจ ให้ท่านเหล่านั้นจงมีความสุขกายสบายใจ เมื่อท่านมีทุกข์ให้พ้นจากทุกข์ เมื่อมีสุข
ก็ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป ทุกคนทุกท่านทุกตัวตนเทอญ……..

โอวาทจาก พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส
Admin: บารมี ภิกฺขุ
๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๘